ช็อกทั้งครอบครัว! เมื่อตรวจพบเนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ หมอชี้ต้นตอ 2 เครื่องปรุงที่กินมากเกินไป แม้จะมีประโยชน์ก็ตาม

จากเว็บต่างประเทศ ได้รายงานว่า นางเฉา (นามสมมติ) วัยเกือบ 50 ปี เปิดเผยว่า ตนเองใส่ใจเรื่องอาหารอย่างมาก เลือกใช้วัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน และมักใช้เกลือไอโอดีนแทนเกลือทั่วไปในทุกมื้ออาหาร พร้อมกับผสมน้ำเกลือเจือจางให้สมาชิกในครอบครัวกลั้วคอทุกวัน เช้า-เย็น เพื่อดูแลสุขภาพลำคอ

นอกจากนี้ ยังใช้ซอสถั่วเหลืองเป็นเครื่องปรุงหลัก ด้วยความเชื่อว่า “ถั่วเหลืองช่วยป้องกันมะเร็ง” จึงนำมาปรุงอาหารแทบทุกจานโดยไม่รู้ว่าปริมาณเกลือและไอโอดีนในซอสชนิดนี้ก็สูงมากเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เมื่อพบว่าลูกชายมีอาการไอเรื้อรังและคอบวมเล็กน้อย ส่วนสามีก็เริ่มมีอาการคล้ายกัน นางเฉาจึงตัดสินใจพาทั้งครอบครัวไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียด และผลตรวจก็ทำให้ทั้งบ้านช็อก แพทย์ยืนยันว่าทั้งสามคนมีเนื้องอกที่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งชนิดไม่ร้ายแรง (เนื้องอกธรรมดา) หรือชนิดร้ายแรง (มะเร็งไทรอยด์) จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อวางแผนการรักษา

แพทย์อธิบายว่า ถึงแม้ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ แต่หากได้รับมากเกินไป ก็อาจกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์มากเกิน จนเกิดความผิดปกติ เช่น การเจริญเติบโตของเนื้องอก หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ซึ่งทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ น้ำหนักลด เป็นต้น

เช่นเดียวกับซอสถั่วเหลือง ที่แม้จะมาจากถั่วเหลืองซึ่งดีต่อสุขภาพ แต่หากบริโภคมากเกินไป ก็อาจขัดขวางการดูดซึมและการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์ โดยเฉพาะซอสที่ไม่มีสารไอโซฟลาโวน (isoflavone) และมีโซเดียมสูง

ซึ่งแหล่งไอโอดีนธรรมชาติที่ควรเลือก ได้แก่ ปลาทะเล, กุ้ง, ปู, สาหร่าย, ไข่, นม และใช้เกลือไอโอดีนหรือน้ำปลามีไอโอดีนอย่างพอเหมาะ ไม่ควรเกินความจำเป็น

ขณะเดียวกัน แม้เนื้องอกต่อมไทรอยด์หลายกรณีจะไม่ร้ายแรง แต่หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัย เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ซึ่งสัญญาณเตือน “เนื้องอกต่อมไทรอยด์” ที่ควรรีบพบแพทย์มีดังนี้

1.มีก้อนพองชัดเจนที่ลำคอ

2.ก้อนขยับตามเวลาที่กลืน

3.กลืนอาหารลำบาก หรือสำลัก

4.หายใจติดขัด โดยเฉพาะเวลานอน

5.เสียงแหบ หรือมีปัญหาเสียง

6.ไอเรื้อรัง หรือไอเวลาดื่มน้ำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *