วันที่ 4 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวดัง รายงานว่า ขณะนี้มีปรากฏการณ์ตัวเทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ เนต้า (NETA) ในประเทศไทย ประกาศดัมพ์ราคาขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) NETA V-II บนเพจของดีลเลอร์ในราคาคันละ 299,000 บาท (รวม VAT 319,000 บาท) แต่การรับประกันต่าง ๆ ถูกถอดออกหมด
ทั้งในส่วนของประกันภัยชั้น 1 พ.ร.บ.คุ้มครองรถ 1 ปี, การรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม., การรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม. รวมทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่รถเมื่อเช็กระยะครั้งแรก รวมทั้ง Wall Box
โดยในช่วงที่ผ่านมา เนต้า ไทยแลนด์ จัดโปรโมชั่น Wholesale ซื้อ 4-แถม 1 หรือส่วนลดราว ๆ 20% โดยจำหน่ายรถยนต์ NETA V-II รุ่น Smart ในราคาเพียง 339,000 บาท
แหล่งข่าวจากตัวเทนจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ของเนต้า ในประเทศไทย ถือว่ามีความคลุมเครือและไม่ชัดเจนอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาดีลเลอร์ส่วนใหญ่พยายามเคลียร์สต๊อกรถที่มีออกไปให้ได้มากที่สุด เนื่องจากไม่มั่นใจกับสถานการณ์ และต่างต้องการกำเงินสดไว้ในมือมากกว่า ขณะที่ดีลเลอร์บางรายที่สามารถเคลียร์รถในสต๊อก ตัดสินใจยุติการเป็นตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว
เช่นเดียวกับแหล่งข่าวดีลเลอร์รายหนึ่งยอมรับว่า สถานการณ์ในวันนี้ ตนเองและเพื่อนดีลเลอร์มีความกังวลค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ทางเนต้า ไทยแลนด์ ก็ได้พยายามเร่งเคลียร์รถยนต์ในมือที่มีกว่า 600 คัน ออกมาให้ดีลเลอร์รับรถไปจำหน่าย เพื่อเป็นการระบายสต๊อกและสินทรัพย์ที่มีอยู่ในมือ ทำให้หลายคนประเมินว่า ขณะนี้เนต้าเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่น่าจับตาอย่างยิ่ง
ตัวแทนจำหน่ายเนต้ารายใหญ่ยอมรับว่า จากที่เดิมบริษัทโชว์รูมและศูนย์บริการของเนต้ากว่า 10 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ขณะนี้ตนตัดสินใจยุติการดำเนินธุรกิจโชว์รูมเนต้า ไปแล้ว 8 แห่ง เหลือเพียง 3 แห่งที่ดำเนินการอยู่ คือ ในกรุงเทพฯ 1 แห่ง และต่างจังหวัด 2 แห่ง
สาเหตุที่ตัดสินใจยุติการดำเนินธุรกิจนั้น เนื่องจากไม่มั่นใจในทิศทางการดำเนินธุรกิจของแบรนด์เนต้าในประเทศไทย และเชื่อว่าไม่สามารถที่จะไปต่อได้ เช่นเดียวกับเพื่อนดีลเลอร์หลายๆ รายที่ถอดใจไปก่อนหน้า ส่วนตนเองมีรถค้างสต๊อกอยู่จำนวนหนึ่งที่ต้องพยายามเคลียร์
แหล่งข่าวจากเนต้า ไทยแลนด์ กล่าวยอมรับว่า วิกฤตที่บริษัทเผชิญอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ตัวแทนจำหน่ายไม่เชื่อมั่นและยกเลิก โดยจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีอยู่ 66 ราย ปัจจุบัน ณ สิ้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เหลืออยู่ 53 ราย และมีแนวโน้มว่าจะลดลงต่อเนื่อง รวมถึงในส่วนของพนักงานของบริษัทจากเดิมมีราว 50 คน ทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่และโรงงาน ปัจจุบันเหลือประมาณ 40 คน ซึ่งคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องเช่นกัน
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่เนต้าเผชิญวิกฤตครั้งใหม่ มีความพยายามจากทีมผู้บริหารชาวจีนที่จะติดต่อกลุ่มทุนไทยหลายราย เพื่อนำเสนอขายกิจการของเนต้า ไทยแลนด์ ให้นักลงทุนชาวไทย โดยมีตัวเลขมูลค่าตั้งแต่ 1,200-2,000 ล้านบาท แต่ดีลไม่สามารถจบได้ เนื่องจากสถานการณ์ของเนต้าในประเทศไทยถูกประเมินว่า ยากที่จะไปต่อได้
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์เนต้า ออโต้ (NETA Auto) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ภายใต้เครือของบริษัท โฮซอน นิวเอนเนอร์ยี ออโต้โมบิล จำกัด ประสบปัญหายอดขายชะลอตัวอย่างมากในประเทศไทย
อีกทั้งบริษัทแม่ในประเทศจีนเผชิญปัญหาด้านการเงิน ประสบภาวะขาดทุนสูงถึง 100,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท จนท้ายที่สุด เนต้าได้ตัดสินใจยุติการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศทั้งมาเลเซีย และสิงคโปร์
โดยก่อนหน้านี้ นายฝาง หยุนโจว ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท โฮซอน นิวเอนเนอร์ยี ออโต้โมบิล จำกัด ออกมายืนยันว่า เนต้าต้องการมุ่งไปยังประเทศที่มีกำไร และไทยเป็นตลาดหนึ่งเดียวที่เนต้า มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเป็นตลาดหลักนอกจีน โดยลงทุนโรงงานประกอบรถยนต์เพื่อต้องการผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์เนต้า พวงมาลัยขวา เพื่อไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ ปัญหาด้านสภาพคล่องส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของเนต้า ไทยแลนด์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยช่วงที่ผ่านมา บริษัท เนต้า ไทยแลนด์ ได้มีการเจรจาเพื่อจ่ายเครดิตเทอมให้กับผู้แทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ จากที่ต้อง “จ่ายเงิน” ชดเชยส่วนลดให้ดีลเลอร์ ก็ขอเปลี่ยนเป็นให้ “รถยนต์” แทนจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้กับดีลเลอร์
โดยนายชู กังจื้อ กรรมการ บริษัท เนต้า ออโต้ ไทยแลนด์ จำกัด ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2568 เป็นผู้ออกมาชี้แจงว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องของการจัดการระบบภายใน ซึ่งเป็นการตกลงร่วมกันระหว่าง 2 ฝ่าย ที่มีการลงนามข้อตกลงร่วมกัน
จากนั้น เนต้าแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย งานประชุมตัวแทนจำหน่าย “NETA AUTO Thailand Dealer Conference” เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 พร้อมนำเสนอแผนธุรกิจ และมีจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU กับพันธมิตรทางธุรกิจหลัก 4 ราย เพื่อร่วมมือทางกลยุทธ์ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อยืนยันว่า เนต้ายังพร้อมเดินหน้าไปต่อในประเทศไทย
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ใช้รถยนต์เนต้าที่ไม่ได้รับการดูแล ในส่วนของงานบริการหลังการขายมีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาที่ลูกค้าต้องรออะไหล่เป็นระยะเวลานาน ดีลเลอร์บางรายไม่รับซ่อม ไม่รับงานบริการหลังการขาย หนำซ้ำบริษัทประกันภัยหลายรายก็ไม่รับประกันรถ “เนต้า”
ล่าสุด นางสาวสรินยา ศรีไทย กรรมการ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ไปลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนดำรงตำแหน่ง Sale Operation Specialist ของบริษัท และตกลงกับผู้บริหารชาวจีนว่า ต้องมีกรรมการของบริษัทจำนวน 2 คน
แต่เมื่อตรวจสอบเอกสารจริงกลับพบว่า หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัทปรากฏว่า มีชื่อตนเองเป็นกรรมการของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่นายซูน เปาหลง ออกจากตำแหน่งกรรมการในเดือนพฤษภาคม 2568 ทำให้เกรงว่าหากบริษัทประสบปัญหา ตนจะกลายเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่ผู้บริหารชาวจีนไม่มีชื่อในการบริหาร
กรณีดังกล่าว เนต้าชี้แจงว่า บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานใหญ่ในประเทศจีนเข้าร่วมเป็นกรรมการ คาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 และนายซูน เปาหลง ที่ดูแลการดำเนินธุรกิจในตลาดไทย ปัจจุบันได้รับมอบหมายบทบาทใหม่ ในการดูตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน
ส่วนนางสาวสรินยา ศรีไทย บริษัทกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการถอดชื่อออกจากหนังสือรับรอง บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด สำหรับประเด็นสำนักงานออฟฟิศที่ตึก RSU Tower สุขุมวิท จะหมดสัญญาเช่ามิถุนายน 2025 บริษัทยืนยันว่าได้ดำเนินการต่อสัญญาเช่าไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย. 68) พบว่ายอดขายรวม 200,386 คัน ลดลง 4.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นส่วนของรถยนต์นั่งไฟฟ้า 100% (BEV) 33,633 คัน โต 46.03%
เมื่อดูจากข้อมูลจดทะเบียนใหม่ของกรมการขนส่งทางบกพบว่า ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในช่วง 4 เดือนแรก มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 31,009 คัน เพิ่มขึ้น 22.35% โดยในส่วนของแบรนด์เนต้า ช่วง 4 เดือนแรก มียอดขาย 1,067 คัน ลดลง 37.3% ขณะที่ยอดขายรวมของเนต้าทั้งหมดในประเทศไทย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 20,000 คัน