ทรัมป์ ประกาศจบสัมพันธ์ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชั้นนำของโลกแล้ว

วันที่ 8 มิ.ย. 68 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่า ความสัมพันธ์ของเขากับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชั้นนำของโลก เจ้าของกิจการรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาและสเปสเอ็กซ์ จบลงแล้ว ทรัมป์กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NBC News เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน หลังถูกถามว่าเขาคิดว่าความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเขากับมัสก์ได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ว่า “ผมคิดว่าน่าจะใช่นะ” และเมื่อถูกถามต่อว่าเขาต้องการจะฟื้นฟูความสัมพันธ์นี้หรือไม่ ทรัมป์ก็ตอบว่า “ไม่”

ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องแย่มาก เพราะเขาไม่ให้ความเคารพ และคุณไม่ควรดูหมิ่นหรือไม่ให้เกียรติกับตำแหน่งประธานาธิบดี” ทรัมป์กล่าว

ความเห็นดังกล่าวถือเป็นการตอบโต้ล่าสุดของทรัมป์ หลังจากเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างอดีตคนเคยรักระหว่างทรัมป์กับมัสก์ ที่ปะทุขึ้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์

ความร้าวฉานเกิดขึ้นหลังจากมัสก์ มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี ซึ่งเคยเป็นผู้บริจาคเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับการหาเสียงของทรัมป์ และยังเคยเป็นที่ปรึกษาทำเนียบขาว ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายด้านภาษีและงบประมาณของทรัมป์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายภายในประเทศที่สำคัญ ที่ผ่านการพิจารณาโดยสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ

มัสก์ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้บริจาคเงินราว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ ได้เผยระหว่างการวิวาทผ่านโซเชียลมีเดียกับทรัมป์ว่า เขาอาจสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามของทรัมป์ในการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า โดยจะสนับสนุนที่กล้าท้าทายสมาชิกรัฐสภาที่สนับสนุนร่างกฎหมายภาษีของทรัมป์

เมื่อถูกถามถึงแนวโน้มที่มัสก์จะสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่ลงแข่งกับพรรครีพับลิกัน ทรัมป์กล่าวว่า มัสก์จะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ยังคงแสดงจุดยืนสนับสนุนทรัมป์ นายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี ให้สัมภาษณ์กล่าวหาว่า มัสก์เล่นแรงเกินไป และอาจไม่มีวันได้รับการต้อนรับกลับเข้ามาในพรรคอีกครั้ง ทั้งยังบอกด้วยว่า การที่มัสก์ออกมาโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มัสก์ได้วิจารณ์ร่างกฎหมายที่เรียกว่า “Big Beautiful Bill” อย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณา มันจะทำให้หนี้ของชาติพุ่งสูงขึ้นหลายล้านล้านดอลลาร์ และทำลายความพยายามของเขาในฐานะหัวหน้ากรมประสิทธภาพของรัฐบาล (DOGE) ที่มุ่งเน้นไปที่ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

หลังจากลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า Doge ได้เพียง 129 วัน มัสก์ได้โพสต์ข้อความบน X ว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นความน่ารังเกียจอย่างรุนแรง แม้จะไม่ได้กล่าวถึงทรัมป์โดยตรง แต่ก็นำไปสู่การทำสงครามน้ำลายระหว่างสองมหาเศรษฐีที่เคยเป็นเพื่อนรักกันในช่วงที่ผ่านมา ก่อนจะแยกย้ายกันไปแบบไม่สวยนัก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *