วันที่ 30 ต.ค.68 ที่ศูนย์ประสานงาน เพจสายไหมต้องรอด ถนนวัดเกาะ เขตสายไหม กทม. น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 41 ปี มาร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกสามีหลอกคบ 3 ปี สูญเงินกว่า 30 ล้าน
น.ส.เอ เปิดเผยว่า ตนคบกับแฟนมาได้ 3 ปี โดยรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก ฝ่ายชายประกอบอาชีพขายไก่ต้มน้ำปลา ช่วงแรกคบกันได้ประมาณ 1 ปี ฝ่ายชายมักคุยถึงเรื่องอนาคตอยากสร้างครอบครัว ตนก็มีความตั้งใจจะก่อร่างสร้างตัวไปด้วยกัน จึงให้ทรัพย์สินต่างๆ แก่ฝ่ายชาย ทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้า และของแบรนด์เนม
ต่อมามีการร่วมลงทุนเพื่อให้ฝ่ายชายมีอาชีพและหน้าที่การงานที่มั่นคง ตนจึงให้เงินไปลงทุนทำโรงงานกากใยมะพร้าว แต่ประสบปัญหาสินค้าไม่ได้ตามสเปกจนขาดทุน ต้องขายทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นรถแบคโฮ โรงงาน รวมถึงเครื่องจักรต่างๆ จากนั้นก็นำเงินไปลงทุนเปิดฟาร์มเลี้ยงหมู แต่ก็ขาดทุนอีก ต่อมาฝ่ายชายสนใจอยากเรียนเทรดหุ้น และให้ตนร่วมลงทุนด้วย แต่สุดท้ายก็ขาดทุนทั้งหมด
ช่วงหลังฝ่ายชายเริ่มตีตัวออกห่าง ทั้งที่ขณะนั้นฝ่ายชายกลับมีฐานะดี ขับรถหรูหลายคัน ทั้งลัมโบร์กินี ปอร์เช่ และมินิคูเปอร์ อีกทั้งยังเตรียมจะซื้อบ้านมูลค่า 20 ล้านบาท แต่ตนกลับหมดตัวจากการช่วยเหลือและลงทุนให้ฝ่ายชาย
นอกจากนี้ยังทราบว่าฝ่ายชายมีผู้หญิงอื่นกว่า 10 คน จึงได้ทวงถามเงินที่เคยช่วยเหลือไป ฝ่ายชายจึงยื่นข้อเสนอจะทยอยคืนให้เดือนละ 200,000 บาท ซึ่งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาได้ส่งมาแล้วรวม 1,700,000 บาท และยังให้เงินก้อนเพิ่มอีก 1,000,000 บาท
และยังมีเงินส่วนที่ค้างจากการลงทุนอีก 1,350,000 บาท ที่ยังไม่ได้รับคืน จึงมาร้องขอความช่วยเหลือ เพื่อให้ฝ่ายชายนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืน โดยยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเอาชนะ แต่อยากได้เงินคืนเพื่อนำไปเริ่มต้นลงทุนสร้างชีวิตใหม่อีกครั้ง
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ระบุว่า เรื่องของทรัพย์สินนั้นต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรัพย์สินของฝ่ายชายที่มีความร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งตนอยากให้ตำรวจจากหน่วยงาน สอท. เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง
พร้อมกันนี้ ยังอยากให้ฝ่ายหญิงนำข้อมูลทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของความร่ำรวยของฝ่ายชายภายในเวลาไม่กี่ปีว่ามีที่มาจากไหน ส่วนจะมีการขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายหรือธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป

 
                     
                    