4 สิ่งที่ไม่ควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง “อันตรายกว่าที่คิด!”
“ในช่องแช่แข็งของคุณมีของบางอย่างที่อันตรายมาก ควรรีบเอาออกทันทีนะ!” คำเตือนจากช่างซ่อมตู้เย็นวันนั้น ทำเอาฉันถึงกับขนลุก
ก่อนหน้านี้ ตู้เย็นที่บ้านฉันเกิดปัญหายางขอบประตูเสื่อม ทำให้น้ำแข็งในช่องแช่แข็งละลายอยู่บ่อยๆ จนต้องเรียกช่างมาซ่อม แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจไม่ใช่แค่การซ่อมเสร็จสิ้น หากเป็นคำพูดของช่างที่ตามมา — เขาบอกว่าในช่องแช่แข็งของฉันมีของบางอย่าง “อันตรายสุดๆ” และควรเอาออกให้เร็วที่สุด!
แม้จะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่หลายคนก็เผลอเก็บของบางชนิดไว้ในช่องแช่แข็งโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนอกจากจะเสี่ยงต่อการทำให้ตู้เย็นเสียหายแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือระเบิดได้โดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่า 4 สิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรแช่ในช่องแช่แข็งมีอะไรบ้าง
1. ภาชนะหรือขวดที่ทำจากแก้ว
หลายบ้านนิยมเก็บของปรุงอาหาร เช่น หอม กระเทียม หรือผักสมุนไพร ใส่กล่องแก้วแล้วนำไปแช่แข็งเพื่อความสะดวกในการทำอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นพฤติกรรมที่อันตรายมาก!
เพราะแก้วเมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเปราะและแตกง่าย โดยเฉพาะหากภายในบรรจุของเหลวอย่างน้ำ ซุป หรือแกง เมื่อของเหลวกลายเป็นน้ำแข็ง ปริมาตรจะขยายตัว ทำให้กล่องหรือขวดแก้วระเบิดแตกได้ทันที
เศษแก้วที่แตกออกมานอกจากจะเสี่ยงบาดมือเวลาเปิดตู้แล้ว ยังอาจทำให้แผงทำความเย็นและผนังอลูมิเนียมในช่องแช่แข็งเสียหาย ส่งผลให้ตู้เย็นชำรุดเร็วกว่าปกติ ทางที่ดีควรใช้ภาชนะพลาสติกชนิดทนความเย็นแทน
2. น้ำแข็งแห้ง (Dry Ice)
บางคนซื้อของแช่แข็งหรือไอศกรีมที่ร้านแล้วได้รับ “น้ำแข็งแห้ง” แถมมาเพื่อรักษาความเย็น และมักนำไปใส่ช่องแช่แข็งต่อทันที ซึ่งถือเป็น “ระเบิดเวลา” ในตู้เย็นเลยทีเดียว
น้ำแข็งแห้งคือคาร์บอนไดออกไซด์ในรูปของแข็ง (CO2 solid) ที่มีจุดระเหิดอยู่ที่ -78.5 องศาเซลเซียส ขณะที่ช่องแช่แข็งของตู้เย็นทั่วไปอยู่ที่ประมาณ -18 องศาเซลเซียส เมื่อใส่น้ำแข็งแห้งเข้าไป มันจะระเหิดอย่างรวดเร็วและปล่อยก๊าซ CO2 ออกมา
เมื่อตู้เย็นปิดสนิท ก๊าซนี้จะถูกอัดอยู่ในพื้นที่ปิด ทำให้แรงดันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ฝาตู้เย็นระเบิดหรือระบบทำความเย็นเสียหายได้ทันที
3. เครื่องดื่มอัดลม เบียร์ และของดื่มบรรจุขวด
หลายคนชอบแช่เบียร์ โคล่า หรือเครื่องดื่มอัดลมในช่องแช่แข็งเพื่อให้เย็นเร็ว แต่ความจริงแล้วนี่คือพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย!
เพราะเครื่องดื่มอัดลมมีคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่ภายใน เมื่อถูกแช่เย็นจัดจนเริ่มแข็งตัว ปริมาตรของน้ำในขวดจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้แรงดันภายในเพิ่มขึ้นจนขวดแตกหรือระเบิดได้
มีหลายกรณีที่ผู้ใช้เปิดตู้เย็นแล้วถูกเบียร์หรือโคล่าระเบิดใส่หน้า ไม่เพียงทำให้บาดเจ็บจากเศษแก้วหรือกระป๋อง แต่ยังสร้างความเสียหายให้กับช่องแช่แข็ง เช่น รอยร้าวในถาดพลาสติกหรือขอบยางประตู
4. อาหารที่ยังเปียกน้ำ
นิสัยที่หลายคนมองว่าไม่เป็นไรอย่าง “ล้างแล้วแช่เลย” แท้จริงแล้วเป็นตัวการทำให้ตู้เย็นเสื่อมสภาพ
ไม่ว่าจะเป็นผัก เนื้อ ปลา หรือผลไม้ หากยังมีน้ำหลงเหลืออยู่ เมื่อถูกแช่แข็ง น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งที่เกาะบนพื้นผิวอาหารและผนังช่องแช่แข็ง เมื่อดึงออกอาจทำให้ถาดหรือฉนวนกันความเย็นแตก และหากน้ำแข็งเกาะหนา ยังขวางการไหลเวียนของอากาศเย็น ทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น และอายุการใช้งานสั้นลง
คำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ของทั้ง 4 อย่างนี้ดูเหมือนไม่อันตราย แต่ในความเป็นจริงกลับเป็น “ตัวการเงียบ” ที่ทำลายตู้เย็นของคุณอย่างช้าๆ หากตู้เย็นในบ้านมีสิ่งเหล่านี้อยู่ ควรรีบเอาออกทันที
ก่อนนำอาหารเข้าช่องแช่แข็ง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า:
อาหารบรรจุในภาชนะพลาสติกทนความเย็นหรือถุงซิปที่ออกแบบมาสำหรับแช่แข็งโดยเฉพาะ ไม่มีน้ำค้างอยู่ ไม่มีอากาศหรือก๊าซอัดอยู่ภายใน อย่าแช่ของแน่นเกินไป เพื่อให้ลมเย็นหมุนเวียนได้ทั่วถึง
เพียงเท่านี้ ตู้เย็นของคุณก็จะปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
ที่มาและภาพ: Sohu
