หญิงสมองตาย ขณะตั้งครรภ์ได้เพียง 9 สัปดาห์ หมอต้องยื้อร่างกายแม่ที่ตายแล้วไว้อีก 5 เดือน เพื่อรักษาชีวิตลูก เพราะกฎหมายห้ามทำแท้ง
หญิงตั้งครรภ์วัย 30 ปีในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ถูกประกาศว่าเสียชีวิตทางสมองหลังเผชิญกับภาวะลิ่มเลือดในสมองหลายจุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายทำแท้งในรัฐนี้เข้มงวดมาก โรงพยาบาลจึงตัดสินใจยื้อชีวิตของเธอซึ่งถือว่าตายแล้วตามกฎหมาย เพื่อรอให้ทารกในครรภ์เติบโตจนสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ เรื่องราวนี้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดในสังคมเกี่ยวกับสิทธิของมารดา สิทธิในการมีชีวิตของทารกในครรภ์ และขอบเขตของกฎหมาย ทำให้ผู้คนตั้งคำถามอย่างลึกซึ้งว่า “ชีวิต” ควรมีขอบเขตอย่างไรในกรอบของกฎหมายปัจจุบัน
ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศ หญิงรายนี้มีชื่อว่า อาเดรียนา อายุ 30 ปี ชาวรัฐจอร์เจีย ถูกประกาศว่าเสียชีวิตทางสมองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 หลังเผชิญภาวะลิ่มเลือดในสมองหลายจุด แม้จะถูกประกาศว่าเสียชีวิต แต่โรงพยาบาลในท้องถิ่นยังคงรักษาชีวิตเธอไว้ตามกฎหมายของรัฐจนกว่าทารกในครรภ์จะสามารถรอดชีวิตได้
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ อาเดรียนาเริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง และได้รับเพียงยาแก้ปวดจากแพทย์ให้กลับไปพักที่บ้าน แต่วันถัดมากลับหมดสติและถูกนำส่งโรงพยาบาล ก่อนถูกวินิจฉัยว่ามีลิ่มเลือดในสมองหลายจุด และสุดท้ายสมองก็ไม่ตอบสนองใด ๆ อีก เธอถูกประกาศว่าเสียชีวิตทางสมอง ในขณะนั้นเธอตั้งครรภ์ได้เพียง 9 สัปดาห์เท่านั้น แต่เนื่องจากรัฐจอร์เจียมีกฎหมายที่เรียกว่า “กฎหมายหัวใจเต้น” (Heartbeat Bill) ซึ่งประกาศใช้ในปี 2019 ระบุว่าหากสามารถตรวจพบเสียงหัวใจของทารกแล้ว จะไม่สามารถทำแท้งได้ โรงพยาบาลจึงเลือกที่จะรักษาชีวิตของเธอไว้ตามข้อกฎหมายนี้
ด้าน มารดาของอาเดรียนา เปิดเผยว่า ช่วงเวลานี้เป็นความทรมานอย่างที่สุดสำหรับเธอ เธอไม่ได้รับทางเลือกใด ๆ ในการดูแลลูกสาวเนื่องจากข้อห้ามทำแท้งในรัฐ เธอบอกกับสื่อท้องถิ่นว่าช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเป็นเหมือน “การทรมาน” เพราะต้องไปเยี่ยมลูกสาวที่โรงพยาบาลโดยรู้ว่าเธอได้จากไปแล้ว
พร้อมกล่าวตำหนิว่าโรงพยาบาลไม่ได้พิจารณาความต้องการของอาเดรียนาในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้แจ้งครอบครัวอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ ขณะนี้ทารกมีอายุครรภ์ 21 สัปดาห์ แพทย์คาดว่าจะต้องยื้อชีวิตต่อไปอีก 11 สัปดาห์ จนถึงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ จึงจะมีโอกาสรอดชีวิตนอกครรภ์ เท่ากับเธอต้องอยู่ทั้งที่สมองตายนานกว่า 23 สัปดาห์
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการแพทย์ระบุว่า “กฎหมายหัวใจเต้น” ของรัฐจอร์เจียยังไม่ได้บัญญัติอย่างชัดเจนเกี่ยวกับกรณีของหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตทางสมอง จึงก่อให้เกิดความสับสนระหว่างหลักทางการแพทย์และกรอบกฎหมาย แม้กฎหมายจะอนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ในกรณีที่ชีวิตของมารดาตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ไม่ได้ให้คำแนะนำสำหรับสถานการณ์ของผู้เสียชีวิตทางสมอง จึงทำให้โรงพยาบาลต้องเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งในเชิงกฎหมายและจริยธรรม
เหตุการณ์นี้จุดประกายการถกเถียงครั้งใหญ่เกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของทารกในครรภ์ โดยฝ่ายคัดค้านมองว่าการมองว่าทารกในครรภ์เป็น “บุคคลตามกฎหมาย” อาจเป็นการลิดรอนสิทธิในร่างกายของมารดา โดยเฉพาะในกรณีที่มารดานั้นเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนเชื่อว่าควรเคารพสิทธิในการมีชีวิตของทารก และเรียกร้องให้มีกฎหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับกรณีเช่นนี้ในอนาคต