นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เกี่ยวกับโควิด ว่า สัปดาห์ที่ 20 (11-17 พฤษภาคม 2568) อัพเดตข้อมูล
พิสูจน์ชัดเจนว่าวลี “แนวโน้มลดลง(ต่อเนื่อง)” นั้น ไม่เป็นความจริง เคสยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง 11 สัปดาห์ติดต่อกัน
ผู้ป่วยรักษาที่รพ. ทั้งผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก 31,688 ราย เสียชีวิต 2 ราย (สุโขทัย และกาญจนบุรี)
วัยมหา’ลัย และวัยทำงานยังนำโด่ง ในขณะที่สูงอายุ และเด็ก/วัยรุ่น อยู่ในสัดส่วนพอกัน ในกลุ่มเด็กนั้น วัย 0-4 ปีซึ่งเป็นเด็กเล็ก ป่วยกันมากสุด
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยจริงจะสูงกว่านี้แน่นอน เพราะนอกจากจะไม่ได้รวมผู้ติดเชื้อและป่วย แต่ไม่ได้ไปรพ.แล้ว เราเรียนรู้จากสัปดาห์ก่อน ๆ ว่า มี delayed report ทำให้จำนวน ณ สุดสัปดาห์ต่ำกว่าสถานการณ์จริงไปได้ถึงเกือบ 2 เท่า เช่น สัปดาห์ที่ 19 เคยรายงาน 16,6xx ราย ตาย 6 ราย แต่หากอัพเดตเช้านี้ จะพบว่าตัวเลขสูงถึง 30,919 ราย และตายเพิ่มเป็น 9 รายด้วย
นอกจากนี้หากสังเกตจากอีกฐานข้อมูล ที่จำนวนผู้ป่วยสงสัยรายใหม่ประจำสัปดาห์ที่ 20 จะพบว่าตัวเลขสูงถึง 36,258 ราย ซึ่งสูงกว่าจำนวนในรายงานสรุปซึ่งน่าจะเป็น confirmed cases ทั้งนี้เชื่อขนมกินได้ว่า ยามที่โรคระบาดชุกชุมแบบในปัจจุบัน โอกาสตรวจแล้วเป็นผลบวกปลอมมีน้อยมาก ตัวเลขจริงในระบบรายงานหลังจากนี้จึงน่าจะพุ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน
ถ้าสัปดาห์ที่ 20 เป็นไปคล้าย 19 จำนวนเคสป่วยก็จะพุ่งไปเกือบสองเท่า หากอัพเดตไปเรื่อย ๆ
ติดเยอะ ป่วยเยอะ จำนวนเสียชีวิตก็จะมีโอกาสเพิ่มขึ้น ตามด้วยปัญหาเรื้อรังระยะยาวอย่าง Long COVID ได้ด้วย
นัดเลี้ยงปาร์ตี้ สังสรรค์ ไปคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง ขึ้นขนส่งสาธารณะ ไปตลาด เดินห้าง รวมถึงทำงานในออฟฟิศร่วมกัน ควรป้องกันตัวให้ดี ใส่หน้ากาก
กิจกรรมไหนเลี่ยงได้ควรเลี่ยงไปก่อน ไม่คลุกคลีใกล้ชิดคนที่มีอาการไอ จาม น้ำมูก ปวดหัว มีไข้
หากป่วย ควรมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม ใส่หน้ากากป้องกันแพร่เชื้อ แยกตัวจากคนอื่น ไม่ไปคลุกคลีหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับเค้า
ด้วยอัตราการป้องกันตัวในเขตเมือง ณ ปัจจุบัน ทั้งในกทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ประเมินแล้วการระบาดครั้งนี้จะยืดเยื้อยาวนานทีเดียว
เพราะขาขึ้นต่อกันมาเกือบสามเดือนแล้ว ยิ่งนาน ขาลงก็นานตาม
