หญิงเส้นเลือดในสมองตีบ ซีกซ้ายขยับไม่ได้ เสียใจละเลย 1 สัญญาณเตือนครึ่งปีก่อน

หญิงเส้นเลือดในสมองตีบ ซีกซ้ายขยับไม่ได้ นึกย้อนไปแล้วเสียใจ พลาดที่ละเลย 1 สัญญาณเตือนครึ่งปีก่อน 

หญิงชาวจีนรายหนึ่งต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉินในโรงพยาบาลหลังเกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบเมื่อเธอตื่นนอนในตอนเช้า โดยแพทย์ระบุว่าสาเหตุของโรคเกิดจากความผิดพลาดตั้งแต่ครึ่งปีก่อน

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ นางเหยียนอวิ๋น วัย 58 ปี ชาวจีน ตามคำให้การของนางเหยียน หลังตื่นนอนในตอนเช้า เธอพบว่ามือซ้ายมีอาการชาที่ผิดปกติ และซีกซ้ายของร่างกายไม่สามารถขยับได้ ครอบครัวจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ตามรายงานของเว็บไซต์ Sohu

ที่โรงพยาบาล นางเหยียนถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ (สมองขาดเลือด) แพทย์เร่งรักษาโดยใช้ยาสลายลิ่มเลือด แม้สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ แต่อาการของซีกซ้ายร่างกายยังไม่ฟื้นกลับมาเต็มที่

มีสัญญาณเตือนมาก่อนหน้า

เมื่อสอบถามประวัติสุขภาพของนางเหยียน แพทย์พบว่าเธอเป็นโรคอ้วน และมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารเค็ม ของมัน และไม่ออกกำลังกายเลย

เธอเล่าว่า เมื่อประมาณครึ่งปีก่อน เริ่มมีอาการชาที่มือ แต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติของวัยสูงอายุ จึงไม่ไปตรวจ ร่างกาย พยายามแก้ไขด้วยการไปนวดที่ร้านนวด โดยเธอเข้ารับบริการนวดสัปดาห์ละ 2 ครั้งตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยไม่เคยสงสัยเลยว่าอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย

มือชาอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง

จนกระทั่งครั้งนี้ที่เธอไม่สามารถขยับซีกซ้ายของร่างกายได้ จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ

แพทย์อธิบายว่า “อาการชาที่มือหรือเท้า อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุอาจเกิดจากไขมันในเลือดสูง ทำให้เส้นเลือดอุดตัน เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนและลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงเส้นประสาทได้น้อยลง ส่งผลให้การทำงานของระบบประสาทเสื่อมลงและเกิดอาการชาตามมือหรือเท้าได้”

ในกรณีของนางเหยียน แพทย์พบว่าเธอมีอาการชามือต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งปีก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนชัดเจน แต่เธอกลับไม่ได้ไปตรวจสุขภาพหรือรับการรักษา จนนำไปสู่การเกิดโรคอย่างรุนแรงในภายหลัง ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

ปัจจุบันกำลังฟื้นฟูร่างกาย แต่ไม่ง่าย

ขณะนี้ นางเหยียนอยู่ระหว่างการทำกายภาพบำบัด แม้กระบวนการจะยากลำบากก็ตาม

เธอกล่าวว่า “ตอนนี้แค่จะหยิบแก้วน้ำดื่มก็ยังลำบากมาก ฉันแทบจะดูแลตัวเองไม่ได้เลย มันเจ็บปวดยิ่งกว่าความเจ็บป่วย เพราะรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นภาระของครอบครัว ถ้ารู้ว่าการชามือคือสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ฉันคงไปตรวจตั้งนานแล้ว ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก”

จากกรณีของนางเหยียน แพทย์เตือนว่า อย่ามองข้ามอาการผิดปกติ เช่น ชามือเท้า หน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด เดินเซ สับสน ปวดศีรษะรุนแรง ฯลฯ หากพบอาการดังกล่าวควรไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดภายใน 6 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถรักษาและลดภาวะแทรกซ้อนได้ทัน

นอกจากนี้ แพทย์ยังแนะนำให้ควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงด้วยการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ลดอาหารมันและเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสุราและบุหรี่ เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในระยะยาว