คิกออฟ 1 มิ.ย.ทั่วประเทศ ตำรวจเข้ม “โครงการถนนปลอดภัย” บังคับใช้กฎหมายป้องกันอุบัติเหตุ 100% กับจักรยานยนต์ โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัย ใครไม่ใส่โดนปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท จัดหนักเพิ่มหากคนโดยสารหรือซ้อนท้ายไม่สวมหมวกคนขี่ถูกปรับ 2 เท่า ส่วนพื้นที่บังคับใช้ ให้ท้องที่พิจารณาถนนสายสำคัญหรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและสร้างวินัยจราจร
ตำรวจเข้ม “โครงการถนนปลอดภัย” บังคับใช้กฎหมายป้องกันอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัย คิกออฟ 1 มิ.ย. ทั่วประเทศ เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พ.ค. พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ศ. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” ให้เสริมสร้างวินัยจราจรและสร้างความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้การบริหารงานจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ สั่งการให้ดำเนินโครงการ “โครงการถนนปลอดภัย” ให้กองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัดทุกพื้นที่พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญในพื้นที่ หรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทุกมิติ โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 100%
ผบช.ศ. กล่าวต่อว่า ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 122 กำหนดให้ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ และคนโดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อป้องกันอันตรายในขณะขี่และโดยสาร หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และมีโทษปรับเป็น 2 เท่า หากผู้ขี่รถจักรยานยนต์ขี่ในขณะที่คนโดยสารมิได้สวมหมวกนิรภัย ให้บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางบนถนนดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 68
พล.ต.ท.นิธิธรกล่าวต่อว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ให้ทุกหน่วยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน หน่วยงานเจ้าของถนน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง หน่วยงานภาครัฐ และสถานศึกษาที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อทราบถึง “โครงการถนนปลอดภัย” ของหน่วย และเชิญชวนให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ช่วยกันรณรงค์และตรวจตราผู้ใช้เส้นทางมิให้ฝ่าฝืนกฎจราจรในถนนเส้นดังกล่าว ตลอดจนเสริมสร้างการใช้มาตรการองค์กรร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ ให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในถนนเส้นดังกล่าวในทุกมิติ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร สร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานเราอีกด้วย
ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนร่วมกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน และหากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนพบเหตุต้องสงสัยหรือสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม แจ้งอุบัติเหตุจราจร และขอความช่วยเหลือด้านการจราจร ติดต่อได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง