เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พ.ค. พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข. รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. นำกำลังจับกุมตัว นายธรณ์นนท์ ปัญญาดี อายุ 41 ปี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆ รวมกว่า 1 แสนชิ้น มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ได้ที่อาคารพาณิชย์ 2 คูหา เลขที่ 22/24 และ 22/25 ภายในโครงการเอช เคปบิซเซ็คเตอร์ ถ.สุขาภิบาล 2 แขวงและเขตประเวศ กทม.

พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสืบสวนการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ จนได้ตรวจพบผู้ไลน์ ใช้ชื่อว่า “นายเขียวขจี” ลักลอบจำหน่ายหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า และ บุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆ มีลูกค้าติดต่อสั่งซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์และส่งในรูปแบบกล่องพัสดุผ่านบริการขนส่งเอกชนต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแส จนกระทั่งทราบว่าร้านดังกล่าว มีการเช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ริม ถ.สุขาภิบาล 2 ไว้เป็นสำนักงาน จัดเก็บสินค้า หรือ สถานที่แพ๊คสินค้ารอจัดส่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้น

โดยจากการตรวจค้นพบ พบภายในอาคารถูกมีชั้นวางของเต็มไปด้วยกล่องลังบรรจุบุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆจำนวนมาก และมีกล่องพัสดุเผล่าฟลากหลายขนาดที่ยังไม่ได้ใช้วางอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ยังพบกลุ่มพนักงานรวมประมาณ 10 คน กำลังช่วยกันแพ๊คของ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่างๆทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัว นายธรณ์นนท์ มาทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายธรณ์นนท์ ให้การรับสารภาพว่า บุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง ซึ่งตนได้ซื้อต่อมาจากชาวจีนอีกทอดหนึ่ง เพื่อนำมากระจายขายต่อให้กับลูกค้ารายย่อยหรือผู้ที่สนใจผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทำมานานกว่า 2 ปี มีรายเฉลี่ย 3 ถึง 5 แสนบาท ต่อวัน

นอกจากนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายธรณ์นนท์ ยังพบว่า ในช่วงเวลาปี 1 มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, ซ่อนเร้น จำหน่าย ซึ่งสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป