“กัน จอมพลัง” ส่งทีมดูแลผู้บาดเจ็บเหตุ BMW ปาดหน้า ย้ำความยุติธรรมควรเท่าเทียม ‎

17 เมษายน 2568 เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงลำลูกกา จ.ปทุมธานี มุ่งหน้าบางปะอิน รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีขาว ป้ายแดง ขับปาดไปปาดมา ก่อนจะหักพวงมาลัยไปชน รถกระบะสีดำทำให้เสียหลัก ไปชนแบริเออร์เกาะกลางถนน
.
โดยรถโตโยต้าสีขาวขับตามหลัง บันทึกภาพนาทีชนไว้ได้ และลงไปช่วยคนเจ็บในรถกระบะ คือ นายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี คนขับรถกระบะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซี่โครงหัก ต้องนอนดูอาการในห้องไอซียู ส่วน นางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี ภรรยาลุงประจักษ์ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าผาก
.
ขณะที่คนขับรถบีเอ็มไม่ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ นายพีช อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี และเป็นลูกชายคนเล็กของ นายกฯเบี้ยว หรือ นาย กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี และเป็นน้องชายของ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ส.ส.ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย
.
เบื้องต้น จากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ นายพีช เป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
.
—ลั่นลุงป้าไหว้ขอโทษแต่บีเอ็มเสียหาย—
หลังก่อเหตุ นายพีช ไม่ได้หลบหนีไปไหน พร้อมยังมีการเปลี่ยนเสื้อจากตอนแรกใส่เสื้อสีเขียวของทีมธัญญก้าวหน้า เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีดำ.. พร้อมอ้างว่าตัวเองเป็นลูกนายกฯ พยายามเรียกให้ลุงกับป้าจอดรถ แต่ลุงป้าไม่ยอมจอดรถ
.
และระหว่างที่ชาวบ้านกำลังดูลุงกับป้าที่ได้รับบาดเจ็บ นายพีช ก็ได้มีปากเสียงกับชาวบ้านที่เข้ามาช่วยลงกับป้าด้วย
.
—ป้าถูกบีเอ็มชี้หน้าด่า-ขอโทษยังไม่ยอม—
ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ นางสมศรี ภรรยาของคนขับรถกระบะ ทราบว่า ตอนนั้นกำลังเดินทางจากบ้านลูกสาว ที่พัทยา ชลบุรี จะกลับบ้านที่จังหวัดลำปาง
.
ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คู่กรณีกล่าวหาว่า เบี่ยงรถไปทางเขา แล้วเขาก็ตะโกนให้จอดรถ แต่พูดลักษณะเกรี้ยวกราด เธอเองพยายามยกมือไหว้ขอโทษ แต่คู่กรณีก็ยังไม่หยุดไล่ตามมาชน
.
ยอมรับว่าที่ไม่จอดเพราะกลัวอีกฝ่ายจะมีอาวุธ ส่วนอาการของสามี ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู เพราะซี่โครงหัก ส่วนอาการของป้า ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว โดยตอนนั้นร่างกายได้กระแทกเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยจึงทำให้บาดเจ็บเจ็บเล็กน้อย
.
—ครบ 36 ชม. “นายกเบี้ยว” เจอลูก “พีช” แล้ว—
นายกฯ เบี้ยวบอกในรายการเปิดปาก ว่ายังติดต่อ นายพีช ลูกชายไม่ได้กำลังตามหาอยู่ เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเหมือนกัน
.
ล่าสุด ประมาณ 19.55 น.ที่ผ่านมา ทีมข่าวไทยรัฐทีวี โทรไปสอบถามกับนายกฯเบี้ยว ว่าเจอลูกชายหรือยัง ก็บอกกับเราว่า เพิ่งไปตามหาตัวเจอประมาณ 5 นาทีก่อนที่เราจะโทรไป กำลังพากลับบ้าน ยังไม่ได้คุยอะไรมาก เพราะลูกยังคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนเรื่องคดี พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะย้ำว่า ไม่ได้หนีไปไหนอยู่แล้ว
.
—นาทีเดือด “พีช” ซิ่งบีเอ็มตบรถกระบะ—
คุณบี หนึ่งในคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนที่ถ่ายคลิป ออกมายืนยันว่าตนเองนั่งรถอัลพาร์ด โดยตัั้งใจว่าจะไปเล่นน้ำตกกัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆรถเก๋งบีเอ็มป้ายแดง ก็ขับมาปาดหน้าจนเกือบจะชน จึงตั้งข้อสงสัยว่า เพิ่งจะขับรถเป็นหรือไม่ แต่ไม่นานรถเก๋งบีเอ็มป้ายแดง ก็ขับปาดรถกระบะของลุงกับป้า บางช่วงรถเก๋งบีเอ็มป้ายแดง ก็ลดกระจกลงมา เหมือนจะบอกให้รถกระบะลุงกับป้า จอด สุดท้ายรถเก๋งบีเอ็มป้ายแดง ก็ชนรถกระบะของลุงกับป้า
.
ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจและกลัวมาก จึงตัดสินใจจอดรถแล้ววิ่งข้ามถนนไปดูกระบะเป็นอันดับแรก ตอนนั้นป้ามีอาการเจ็บหน้าอกและตัวสั่น ส่วนลุงมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งในตอนนั้นมีพลเมืองดีอีกคน โทรแจ้งตำรวจ ให้เข้ามาตรวจสอบ ระหว่างนี้ตนเองสังเกตุเห็นว่า คนขับรถเก๋งบีเอ็มป้ายแดง ลงมาจากรถ แล้วก็ถอดเสื้อด้วย
.
—เปิดโพสต์! “ลูกพีช” ผู้สมัคร สท.ธัญบุรี—
ทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบในเฟซบุ๊กของ นายพีช พบว่า 6 วันที่แล้ว ได้โพสต์ประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี โดยในโพสต์ระบุว่า “พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัคร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี พร้อมทำงาน รับใช้พ่อแม่ พี่น้องชาวเทศบาลตำบลธัญบุรี”
.
ขณะที่ย้อนไปเมื่อปี 2562 นายพีช ได้โพสต์ว่า “วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของผม 20กว่าปีที่ผ่านมา
.
ผมไม่คิดว่าจะทำเรื่องย่ำแย่ให้ตัวเองและคนที่ครอบครัวผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ละครั้งที่เกิดปัญหามันก็ยากที่จะผ่านมันไปได้ ผมเลือกที่จะหนีปัญหา ไม่กล้าเผชิญกับปัญหา ผมเอาแต่กลัวแล้วคิดว่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวรู้ไม่ได้ กลัวว่าเขาจะด่าจะว่าแต่เราทำผิดจริงเราต้องยอมรับ จนผมไม่สามารถอยู่รับปัญหาเหล่านี้คนเดียวได้ สุดท้ายก็ พ่อ แม่ และคนในครอบครัว ที่คอยช่วยเรา
.
สุดท้ายนี้ คนเราอย่าใช้ชีวิตบนความประมาท อย่าใช้ชีวิตเสเพลเพราะชีวิตคนเราไม่แน่นอน วันนี้พรุ่งนี้คุณอาจจะตายได้ จนได้ รวยได้ ผมโชคดีที่มี พ่อ แม่ และครอบครัว
.
ที่มาพูดในวันนี้ขอบคุณ พ่อ แม่ ครอบครัว พี่ชาย พี่สาว ตัวผม กับคนในครอบครัวไม่ค่อยคุยไม่ค่อยปรึกษา กันเท่าไหร่ แต่เวลามีปัญหา คนที่ผมไม่ค่อยได้คุยด้วยนั้นแหละ ที่เข้ามาถามผม ว่าผมเป็นอะไร ทำให้เรารู้ว่ายังมีคนเป็นห่วงเรา
.
สุดท้ายนี้ ถ้าผมไม่มี ป๊า แม่ พี่ชาย พี่สาว “หมาสักตัวก็ยังไม่มอง” ชีวิตต้องดำเนินต่อไป”
.
——ลุงขับกระบะ ซี่โครงหักนอนICU —
ขณะที่ลุงประจักษ์ ดวงใย คนขับรถกระบะ ยังรักษาตัวห้องไอซียู ที่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 เนื่องจากบาดเจ็บซี่โครงหัก ส่วนคุณป้าบาดเจ็บที่หน้าผาก อาการดีขึ้น สามารถพูดคุยได้ แต่สภาพจิตใจยังไม่พร้อมที่จะ มาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
.
—นายกฯ เบี้ยว รุดเยี่ยมคนเจ็บ ลั่นลูกผิดจริงไม่ป้อง—
ขณะที่ช่วงเที่ยง นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี พ่อของนายพีช เดินทางมาเยี่ยมลุงประจักษ์ โดยนั่งToyota Alphard สีดำ มาที่ลานจอดรถด้านหลัง แล้วเดินเข้าทางประตูหลังของโรงพยาบาล
.
ทีมข่าวพยายามสอบถาม ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นได้คุยกับลูกชายหรือยัง นายกเบี้ยว บอกว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพราะหลังเกิดเหตุยังติดต่อลูกชายไม่ได้ เพราะลูกไม่รับสาย จึงไม่รู้ว่าตอนเกิดเรื่องลูกกำลังจะไปที่ไหน เท่าที่ทราบหลังเกิดเหตุ ตำรวจมีการเป่าแอลกอฮอล์ลูกชาย แต่ผลปรากฏว่าไม่พบว่าเมา ตอนนี้ตนสั่งให้ทีมงานตามตัวอยู่
.
—“นายกเบี้ยว” ยันลูกขับรถดี ไม่เมา—
ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนที่ขับรถดีมาก ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ ตอนนี้ไม่มีกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากลูกตนเองผิดจริง ตนก็พร้อมจะขอโทษ และยืนยันไม่เข้าข้างลูกชาย ส่วนคนเจ็บตนรับปากดูแล ไม่ทิ้ง เพราะที่ผ่านมาตนชอบช่วยชาวบ้าน คนป่วย คนชรา อยู่แล้ว ย้ำว่า “ถ้าลูกผิดไม่เข้าข้างลูก แต่ตนแคร์สังคม”
.
—นายกเบี้ยวลั่น “ผิด-ไม่ผิด” ก็ดูแล—
.
มีรายงานว่า นายกเบี้ยว ขึ้นไปคุยกับครอบครัวคนเจ็บ ไม่ถึง 30 นาที ระหว่างการพูดคุย นายกเบี้ยว บอกกับลุงประจักษ์และเมียว่า “ถ้าลูกผมผิด ผมจะรับผิดชอบแน่นอน แต่ถึงลุงจะผิด ยังไงผมก็จะรับผิดชอบ”
.
นอกจากนี้ ยังถามสารทุกข์สุขดิบ และการทำงานคุณลุงคุณป้าในแต่ละวัน ทั้งยังพูดให้กำลังใจคุณป้าด้วย ว่ายังแข็งแรงดี แต่ทางครอบครัวคนเจ็บ ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ โดยเฉพาะคุณป้าที่ยังสั่น และยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรกับนายกเบี้ยวมากนัก
.
—ตร.รุดสอบปากคำคนเจ็บที่ รพ.—
พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ขนอุปกรณ์ เครื่องปริ้นเตอร์ต่างๆ เดินทางมาที่โรงพยาบาล สอบปากคำผู้บาดเจ็บ เพื่อพิจารณาความผิดเกี่ยวกับคดีอาญา ว่าเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง เป็นการถามรายละเอียดเหตุการณ์ไว้ก่อน แต่หลังจากนี้ ถ้าหายดี ผู้บาดเจ็บต้องเข้าไปแจ้งที่ สภ.ลำลูกกา เอง เนื่องจากหลังเกิดเหตุ ไปแจ้งที่สถานีตำรวจทางหลวงไว้อย่างเดียว ไม่ได้มาแจ้งที่สภ.
.
แต่เบื้องต้น แพทย์ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากลุงประจักษ์ ยังอยู่ห้องฉุกเฉินอยู่จึงสอบปากคำภรรยาของลุงประจักษ์แทน คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้
.
—ตร.ไม่กดดัน ทำคดีลูกนักการเมือง—
ส่วนนายพีช คนขับรถเก๋ง อาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายทำให้ได้รับบาดเจ็บ และทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะถึงขั้นพยายามฆ่าหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดก่อน ยืนยันทำไปตามข้อเท็จจริง ไม่กดดันแม้ว่าอีกฝ่าย จะเป็นลูกชายนักการเมือง
.
—“กัน” ลั่นงานนี้ รอชมใครจะแพ้ —
ขณะที่คุณกันจอมพลัง แม้ตอนนี้เจ้าตัวไม่ได้อยูในไทย แต่ก็มีความเคลื่อนไหว ผ่านเหซบุ๊ก โดยโพสต์ว่า ตอนนี้ได้คุยกับ ลุงป้าที่ขับรถกระบะแล้ว รับปากช่วย ตอนนี้ทีม กำลังประกบดูแลความปลอดภัยอยู่
.
นอกจากนี้ยังโพสต์คลิปลงใน tiktok ระบุว่า เคสนี้ ตรงคอนเซปต์ กันจอมพลังช่วยคนลำบากยากจน สู้กับคนนามสกุลดัง ขอให้ติดตามชม ว่าระหว่างคนจน จะชนะนักการเมือง ได้หรือไม่
.
—จ่อออกหมายเรียก “พีช” สอบ—
ด้านพันตำรวจเอกถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ขึ้นไปสอบปากคำ ภรรยาของลุงประจักษ์ คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้
.
ซึ่งตอนนี้ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากคำให้การของผู้เสียหาย และคลิปหลักฐานต่างๆ ซึ่งสามารถออกหมายเรียกให้นายพีช มารับทราบข้อกล่าวหาได้เลย
.
ขณะที่ช่วงบ่าย พันตำรวจโทธิติ พันธ์สวัสดิ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
.
—ชี้ “พีช” จงใจซิ่งเก๋งตบกระบะลุงป้า—
ขณะที่ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ก็ได้เดินทางมาออกรายการเปิดปากกับภาคภูมิเช่นกัน ก่อนจะให้ความรู้เรื่องกฎหมายว่า หาดมองในเรื่องของเส้นจราจร นั้นหมายความว่า ตอนแรกก่อนเกิดเรื่องนั้น รถกระบะของลุงกับป้า ได้เบี่ยงออกมาทางเลนขวา ก็จะเข้าข่ายความผิด พรบ.จราจร
.
ส่วนกรณีที่รถเก๋งบีเอ็ม ตบรถกระบะของลุงป้าจนเกิดความเสียหายนั้น แน่นอนว่า เป็นการจงใจอย่างแน่นอน ส่วนจะเข้าข่ายจะพยายามฆ่าหรือไม่นั้น จะต้องดูจากพยานหลักฐานต่างๆ