สรุปดราม่า หมออั้ม-อาร์ต พศุตม์ เดินหน้าฟ้องแน่ ย้ำทุกอย่าง มีราคาต้องจ่าย

สรุปดราม่า หมออั้ม อิราวัต-อาร์ต พศุตม์ ฝ่ายหมอย้ำ เดินหน้าฟ้องต่อ ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย อาร์ตไม่ยอม อยากได้ให้ไปฟ้องเอาไปเอง

ใส่ใจต่อไม่รอแล้วนะ หลังวานนี้ (4 มิ.ย.) อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม เปิดใจผ่านรายการหน่วงทอล์คดราม่าสงครามน้ำลายระหว่างเจ้าตัวและ “หมออั้ม อิราวัต” เนื่องจากอีกฝ่ายโพสต์เล่านิทานถึงพระเอกกล้ามโตที่มีพฤติกรรมไม่น่ารัก และ เนรคุณผู้ใหญ่ที่เข็นตัวเองเข้าวงการบันเทิงแบบไม่เอ่ยนาม ซึ่งอาร์ตมองว่าพระเอกกล้ามโตที่หมออั้มกล่าวถึง คือตนแน่นอน จนเรื่องราวราวบานปลายถึงขั้นฟ้องร้องกัน ดังนั้น ไทยเกอร์จึงขอสรุปเนื้อหาข้อเท็จจริงจากปากทั้งสองฝ่ายในเทปรายการนี้แบบครบจบในที่เดียว

เริ่มต้น “อาร์ต” เล่าว่า ตนเข้าวงการบันเทิงด้วยการประกวดของช่อง 3 เมื่อปี 2550 ซึ่งเป็นการสมัครและประกวดเอง ไม่มีโมเดลลิ่ง จึงไม่ติดหนี้บุญคุณใคร เริ่มต้นด้วยตัวเอง ส่วน “หมออั้ม” นั้น ตนรู้จักมานานแล้ว เพราะเคยเป็นหมอที่ทำหน้าให้เมื่อ 16 ปีก่อน พร้อมหยิบหลักฐาน เรียงไทม์ไลน์สิ่งที่หมออั้มเคยโพสต์ไว้ เพื่อแสดงให้ หนุ่ม กรรชัย (พิธีกร) เห็นว่า พระเอกกล้ามปูที่หมออั้มกล่าวถึงคือตนจริง ๆ

ส่วน “พี่พจน์” (หมายถึงผู้ใหญ่ที่มีบุญคุณ) ตนยอมรับว่ารู้จักกันจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้มีบุญคุณอะไร เป็นพี่ชายที่น่ารักและพาตนไปทำหน้าเท่านั้น พร้อมย้ำว่า หากหมออั้มยอมรับว่าที่โพสต์หมายถึงตน จะยอมจบทุกอย่าง ไม่เอาเรื่อง ไม่ฟ้อง และแยกย้ายกันไปทำมาหากิน

ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

ต่อมา “หมออั้ม” โฟนอินมาในรายการ เพื่อยืนยันว่าตอนที่เกิดเรื่อง ตนไม่คิดถึง “อาร์ต” ด้วยซ้ำ เพราะคนที่เล่าเรื่องนี้ให้ตนทราบก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่ที่นำเรื่องนี้มาโพสต์โซเชียลก็เพราะห่วงใยคนเล่า รวมถึงถ้าเป็นอาร์ตจริง ๆ ตนคงโทรไปด่าแล้ว เพราะมีทั้งเบอร์อาร์ตและแม่อีกฝ่าย

อีกทั้งคนที่เล่าเรื่องนี้ ไม่ได้ใช้คำว่าพระเอกกล้ามโต แต่ใช้คำว่า “พระเอกกล้ามใหญ่ใจมด” ซึ่งตนยอมรับจากใจว่า ตอนที่อาร์ตทักมา ในใจคือรู้สึกชิบxายแล้ว จึงพยายามบอกไปว่าไม่ใช่อาร์ต และขอโทษไปแล้วถึง 3 ครั้ง แต่อาร์ตก็ไม่ยอมจบ ยังโพสต์เหน็บตนเรื่อง ๆ ลามปามถึงพ่อ ให้ชาวเน็ตมาด่าลูก, อาชีพแพทย์, ด้อยค่า และลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

อย่างไรก็ดี หมออั้มยอมรับว่า คนที่เล่าเรื่องนี้ก็คือ “พี่พจน์” จริง ซึ่งเรื่องที่มาให้เล่าฟังก็คือการหยิบยืมเงินจากพระเอกกล้ามใหญ่ใจมดคนหนึ่ง เพราะเจ้าตัวกำลังเดือดร้อน แต่แทนที่ทางนั้นจะช่วยเหลือ กลับไม่สนใจ แถมเอาไปพูดกับผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ว่าไปยุ่งกับครอบครัวเขา

ประเด็นนี้ตนจึงรู้สึกว่า มีคนแบบนี้ด้วยงั้นหรือ เพราะพี่พจน์ก็ช่วยคนไว้เยอะ เนื่องจากลักษณะนี้คือการเนรคุณ และขอยืนยันว่าทางนั้นไม่บอกชื่อพระเอกที่กล่าวถึงว่าเป็นใครแต่อย่างใด

ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

หมออั้ม ยืนยันว่า โพสต์บนเฟซบุ๊กไม่ได้หมายถึงใครทั้งสิ้น แต่ “อาร์ต” เข้ามาเดือดร้อนเอง และไม่ใช่หน้าที่ตนที่ต้องไปตอบอาร์ตว่า พระเอกกล้ามโตคือใคร เพราะไม่ทราบว่าหมายถึงใครเหมือนกัน แถมพี่พจน์ก็ไม่ได้บอกไว้ด้วย ซึ่งสิ่งที่อาร์ตทำคือการพยายามชักใบให้เรือเสีย จนเรื่องนี้มันหมายถึงอาร์ตเอง

ทั้งนี้ ตนได้ขอโทษอาร์ตในเรื่องที่ร้อนใจ ตามความรู้สึกลูกผู้ชายแล้ว และพยายามบอกไปแล้วว่าสิ่งที่ตนโพสต์ไม่ใช่อาร์ต ถึงกระนั้น สิ่งที่อาร์ตพูดทุกคำ, การเอาใบประกอบวิชาชีพตนไปโพสต์ และการบูลลี่ ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายและต้องรับผิดชอบ โดยจะได้เจอกันในชั้นศาล รอหมายออกแล้วเขา (อาร์ต) จะได้เห็น

อาร์ต กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนต้องการคืออยากให้หมออั้มพูดมาเลยว่า สิ่งที่ “พี่พจน์” เล่าคืออาร์ตไม่ให้ยืมเงินใช่หรือไม่ เพียงแค่นี้เรื่องก็จะจบทันที แถมจะขอโทษหมออั้มด้วย โดยตนเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ฟ้อง ไม่เอาเรื่อง แต่กระนั้น หมออั้มยืนยันว่าจะฟ้องอาร์ตอยู่ดี จนพระเอกหนุ่มถึงกับพูดว่า “คุณหมอจบ ผมจบ ผมขอโทษคุณหมอจบป่ะ จบทุกเรื่องต่างคนต่างแยกย้ายไปเลย”

สุดท้าย หมออั้ม ยืนยันว่า “ไม่จบ” เพราะพ่อแม่พี่น้อง ครอบครัว เครียดมาก ก่อนซัดกลับว่า “พูดสั้นๆ นะครับ พี่จะรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น จะไปจบในชั้นศาลเพราะเลยเถิดไปมากแล้ว” ซึ่งอาร์ตก็ตอบโอเค ถ้าแบบนั้นก็ไปฟ้องเอา