เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์วิดีโอคลิปการประชุมรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.สุรินทร์ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานในที่ประชุมได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเวลาการเปิด-ปิดด่านระหว่างไทยและกัมพูชาที่ไม่ตรงกัน โดยก่อนหน้านี้ด่านช่องจอมได้เปิดทุกวัน ช่วงเวลา 08:00 น. – 22:00 น. แต่ภายหลังจากไทยมีมาตรการควบคุมชายแดน ได้เปลี่ยนเป็นเปิดเฉพาะวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เวลา 08:00 – 15:00 น. ซึ่งทางกัมพูชาก็มีการประกาศเลื่อนการเปิด – ปิดด่านเช่นกันโดยเปิดเวลา 09:00 น.และปิดเวลา 16:00 น.
ในที่ประชุมดังกล่าว น.ส.แพทองธาร ได้ตั้งข้อสงสัยงว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร น่าจะให้เปิดเวลาตรงกัน ขอให้ฝ่ายความมั่นคงไปดูว่าจะเปิดปิดเวลาตรงกันได้หรือไม่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงว่า การเปิดปิดเวลาไม่ตรงกันอาจมีนัยบางอย่าง เหมือนมีลักษณะของการเมืองนิดหน่อย เพื่อชิงความได้เปรียบ แต่หลังจากนี้ฝ่ายความมั่นคง ผู้ว่าฯ ในพื้นที่จะมีการหารือกัน ซึ่ง น.ส.แพทองธาร นายกฯ ได้กล่าวย้ำว่า ถ้าเรายึดถือผลประโยชน์ของประชาชน เปิด-ปิดตรงกัน จะได้ค้าขายได้เท่ากัน อันนี้จะดีกว่าขอให้ลองดู คงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีปัญหา
ทั้งนี้ ภายหลังจากการโพสต์วีดีโอคลิปดังกล่าว ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมากทำนองว่า นายกฯ ไม่มีความรู้เรื่องปัญหาชายแดน ไม่เข้าใจว่านั่นเป็นมาตรการกดันกัมพูชา ทำไมเราจะต้องไปเปลี่ยนตาม พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกฯ ไม่ฉลาด แถมยังดื้อ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ กนก เนตระคเวสนะ ซึ่งก็คือ พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 และอดีตผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้เข้ามคอมเมนต์ว่า ทุเรศ ไม่ใช่เรื่องของไทยที่ต้องทำ อำนาจมอบให้กองทัพแล้วเสือก พวกทาสเขมร
สำหรับ พล.ท.กนก เคยมีผลงานในการปกป้องชายแดนเป็นที่ประจักษ์ เมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีดูแลพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้นำกำลังบุกเข้าไปช่วยคนไทย 3 คนที่ถูกทหารกัมพูชาจับตัวไปขณะนั่งปฏิบัติธรรมอยู่บริเวณใกล้ปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นพื้นที่ของไทย เมื่อเดือน ก.ค.2551 รวมทั้งเป็นบัญชาการสู้รบในศึกเขาพระวิหารในปี 2554
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังจากฝ่ายกัมพูชายอมปรับกำลังถอยออกมาจากจุดปะทะที่ช่องบก พล.ท.กนกได้ออกมาเตือนว่า อย่าเพิ่งไว้ใจว่าฝ่ายกัมพูชายอมถอยทหารออกจากเขตแดนไทย เพราะ พล.ท.สรัย ดึก รอง ผบ.ทบ.กัมพูชาที่มาเจรจานั้น อยู่ในพื้นที่นี้ตั้งแต่มีเหตุการณ์เขาพระวิหารปี 51 และขอให้ดูบทเรียนจากเขาพระวิหาร เพราะตกลงกันแล้ว เขาก็ยิงใส่ และขยับเข้ามาหาเราได้อีก