เครื่องดื่มชนิดนี้โด่งดังไปทั่วโลกในฐานะเครื่องดื่มคู่มื้อเช้า แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีปริมาณน้ำตาลสูงเกินไป
ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ทุกคนทบทวนการเลือกเครื่องดื่มสำหรับมื้อเช้าอีกครั้งเพื่อปกป้องสุขภาพลำไส้ ตามรายงานของสื่ออังกฤษ Express
หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าไม่ควรดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นนอน เพราะเมื่อท้องว่าง การดื่มกาแฟอาจทำให้เกิดปัญหาระบบย่อยอาหาร เช่น แสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว ท้องอืด หรือกรดไหลย้อน
แต่ยังมีอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่อาจทำร้ายระบบย่อยอาหารได้เช่นกัน หากดื่มผิดวิธีในมื้อเช้า นั่นก็คือ “น้ำส้มคั้น”
น้ำส้มคั้น ซ่อนน้ำตาลไว้มากกว่าที่คิด
สตีเว่น เฮการ์ตี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดูแลสุขภาพลำไส้จากพืช Biomel ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า น้ำส้มคั้นอาจสร้างปัญหาให้กับลำไส้ได้
เขากล่าวว่า “แม้หลายคนจะมองว่าน้ำส้มเป็นการเริ่มต้นเช้าที่ดีต่อสุขภาพ แต่มันกลับมีน้ำตาลสูงมาก สูงกว่าน้ำอัดลมบางชนิดเสียอีก ปริมาณน้ำตาลที่มากขนาดนี้อาจทำร้ายลำไส้ ทำให้เกิดการระคายเคือง และทำงานได้เชื่องช้าลง”
คลินิกทันตกรรม West Davis Dental ในสหรัฐฯ อธิบายว่า ส้ม 1 ผล ให้น้ำส้มได้เพียงราว 57 มิลลิลิตร ซึ่งหมายความว่า น้ำส้ม 1 แก้ว ขนาด 240 มิลลิลิตร มีปริมาณน้ำตาลเทียบเท่ากับส้ม 4 ผล ดังนั้นการกินส้มสดเพียง 1 ผลในมื้อเช้าจึงเหมาะสมกว่า เพราะหากดื่มน้ำส้ม 1 แก้ว จะได้รับน้ำตาลมากถึง 4 เท่าทีเดียว
โดยประมาณแล้ว น้ำส้มคั้น 1 แก้วขนาด 240 มิลลิลิตร มีน้ำตาลราว 24 กรัม หรือเท่ากับน้ำตาล 6 ช้อนชา
Vlada Karpovich
สตีเว่น เสริมว่า “แม้น้ำส้มจะเป็นแหล่งน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่หากดื่มมากเกินไปก็สามารถทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และทำให้ระบบย่อยอาหารเสียสมดุลได้ มันอาจให้พลังงานทันทีในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นมักจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพโดยรวม”
นอกจากนี้ น้ำตาลปริมาณสูงในน้ำส้มยังส่งผลให้จุลินทรีย์ดีในลำไส้เสียสมดุล ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้มีบทบาทช่วยย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร เมื่อสมดุลถูกทำลาย อาจก่อให้เกิดอาการท้องอืด ไม่สบายท้อง และยังส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ด้วย
สตีเว่น แนะนำว่า แทนที่จะเริ่มวันใหม่ด้วยน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ควรเลือกเครื่องดื่มที่อ่อนโยนต่อระบบย่อย เช่น น้ำอุ่นผสมน้ำเลมอนเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยเติมน้ำให้ร่างกายและกระตุ้นการย่อยอาหารได้ดีกว่า
หากยังต้องการดื่มน้ำส้มคั้น เว็บไซต์ด้านสุขภาพ Healthline แนะนำว่า ควรคั้นดื่มเองที่บ้านและควบคุมปริมาณให้พอเหมาะ นอกจากนี้ การเติมน้ำเปล่าลงไปผสมกับน้ำส้มก็ช่วยลดแคลอรีและน้ำตาลที่ได้รับได้เช่นกัน
นอกจากคำแนะนำเรื่องเครื่องดื่ม สตีเว่น ยังเสนอให้ปรับเปลี่ยนอาหารเช้าเพื่อเสริมสุขภาพลำไส้ เช่น เลือกทานอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปมากนัก อย่างข้าวโอ๊ตต้มไข่ หรือโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงดีต่อระบบย่อยอาหาร แต่ยังช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากของหวานระหว่างวันอีกด้วย