หากอยากห่างไกลจากโรคมะเร็ง การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญ นพ.หลี่ ซือเซียน แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปจากไต้หวัน เปิดเผยว่า สารอาหารชนิดหนึ่งที่พบมากในผักผลไม้ โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำ แอปเปิล และหัวหอม นั่นคือ “เควอซิทิน” (Quercetin) มีคุณสมบัติเด่นในการ ต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และต่อต้านเซลล์มะเร็ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เควอซิทิน คืออะไร? เควอซิทินเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นรงควัตถุธรรมชาติที่พบในพืช มีงานวิจัยระบุว่าสารนี้สามารถยับยั้งการแสดงออกของยีนบางชนิด เช่น p21 ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตและกระจายตัวของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้ยังส่งเสริมกระบวนการ เซลล์ตายตามธรรมชาติ” (Apoptosis) ซึ่งเป็นกลไกที่ช่วยให้ร่างกายขจัดเซลล์ผิดปกติออกไป
นพ.หลี่เผยว่า เควอซิทิน ดีต่อทั้งลำไส้และภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เซลล์ลำไส้ ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้โดยเพิ่มเชื้อดี ลดเชื้อร้าย ส่งผลให้ระบบย่อยและระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
เควอซิทินยังทำหน้าที่เป็น สารต้านฮีสตามีนตามธรรมชาติ ช่วยลดอาการแพ้โดยการยับยั้งการหลั่งฮีสตามีนจากเซลล์แมสต์ ซึ่งสัมพันธ์กับอาการแพ้และโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน รวมถึงสามารถช่วยลดผลกระทบของความเครียดต่อระบบภูมิคุ้มกันได้
ซึ่งหากต้องการเพิ่มการบริโภคเควอซิทินในชีวิตประจำวัน สามารถพบได้ในอาหารธรรมชาติเหล่านี้
ผักตระกูลกะหล่ำ (เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี)
แอปเปิล
หัวหอม
พาร์สลีย์ (Parsley)
เซจ (Sage)
ชาเขียว
ไวน์แดง
เชอร์รี
บลูเบอร์รี
กระเจี๊ยบเขียว
น้ำมันมะกอก
เควอซิทินคือสารอาหารทรงพลังจากธรรมชาติที่ช่วยต้านมะเร็ง บำรุงลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และลดอาการแพ้ แนะนำให้เพิ่มผักผลไม้หลากสีในมื้ออาหารเพื่อป้องกันโรคร้ายตั้งแต่วันนี้
ปริมาณแนะนำและข้อควรระวัง? โดยทั่วไปคนเราจะได้รับเควอซิทินจากอาหารประมาณ 10–100 มิลลิกรัมต่อวัน หากต้องการเสริมเพิ่มเติม นพ.หลี่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปริมาณ 500–2000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีปัญหาลำไส้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กำลังรับประทานยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น กลุ่มควินิน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการทำเคมีบำบัด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เสริมเควอซิทิน