วันที่ 11 มิถุนายน 2568 ตัวแทนชาวบ้านบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 5 ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 50 คน รวมตัวกันเดินทางโดยรถสองแถวมายังที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงนายอำเภอ กรณีถูกอดีตเหรัญญิกกองทุนหมู่บ้านโกงเงินกว่า 3.6 ล้านบาท
ผู้ถูกร้องเรียนคือ นางสาวป. (อักษรย่อ) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสมียนตรา และเพิ่งย้ายมาจากอำเภออื่น โดยชาวบ้านระบุว่า น.ส.ป. เคยดำรงตำแหน่งเหรัญญิกกองทุนหมู่บ้านโนนสวรรค์ ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2562 แม้จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ แต่ น.ส.ป. ยังคงยึดหน้าที่และเอกสารทั้งหมดไว้เพียงลำพัง ไม่ส่งมอบให้คณะกรรมการใหม่

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ที่นี่ อำเภอบ้านด่าน
น.ส.สุพัตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า เรื่องทั้งหมดเริ่มชัดเจนในปี 2567 เมื่อมีชาวบ้านพบความผิดปกติจากยอดเงินที่กู้ ระบุว่าตนเองยื่นกู้เพียง 20,000-30,000 บาท แต่กลับมีหลักฐานปรากฏว่ากู้เงินถึง 50,000-100,000 บาท จนนำไปสู่การตรวจสอบและพบว่าเงินในกองทุนหายไปกว่า 3.6 ล้านบาท
หลังจากนั้น น.ส.ป. ได้ย้ายออกจากพื้นที่ และเพิกเฉยต่อคำร้องขอของชาวบ้าน พร้อมอ้างว่าทุกคนมากู้เอง ทั้งที่มีบางรายไม่เคยกู้เงินแต่กลับมีชื่อในบัญชีเงินกู้ ชาวบ้านจึงรวมตัวแจ้งความที่ สภ.บ้านด่าน แต่เรื่องเงียบหาย ไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ น.ส.ป. ยังท้าทายให้ไปฟ้องร้องเอาเอง

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ที่นี่ อำเภอบ้านด่าน
การเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ ชาวบ้านยืนยันว่าไม่ได้หวังเงินทั้งหมดคืน ขอเพียงเงินทุนก้อนแรกจำนวน 1 ล้านบาทกลับมาก็พอ เพื่อจะนำไปตั้งต้นกองทุนใหม่ ส่วนเงินที่เหลืออีกกว่า 2.6 ล้านบาท พวกเขาจะถือเป็นบทเรียนและพร้อม “อุทิศส่วนกุศลให้”
ชาวบ้านยังระบุด้วยว่า กองทุนดังกล่าวเคยได้รับคำชื่นชมจากธนาคารว่าเป็นหนึ่งในกองทุนที่บริหารจัดการดี มีเงินดอกเบี้ยหมุนเวียนต่อยอดได้อย่างต่อเนื่อง แต่กลับต้องมาพังเพราะการทุจริตเพียงคนเดียว จึงหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และช่วยติดตามเงินกลับคืนสู่ชุมชนโดยเร็ว

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ที่นี่ อำเภอบ้านด่าน
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์